จับคู่เลนส์โปรเกรสซีฟ ให้ใช่กับชีวิตคุณ
สำหรับผู้ที่เริ่มมีภาวะสายตายาวตามวัย การมองเห็นระยะใกล้อาจไม่ชัดเจนเหมือนเดิม และต้องการความคมชัดในทุกระยะโดยไม่ต้องพกแว่นหลายอัน ซึ่งเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) ถือเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงามและการใช้งานในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม การเลือกเลนส์ชนิดนี้ไม่ใช่แค่การใส่ค่าสายตาเข้าไปในกรอบ แต่เป็นการ “ออกแบบ” มุมมองให้เข้ากับกิจกรรมและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคุณโดยเฉพาะ เพราะหากเลือกดีไซน์หรือโครงสร้างของเลนส์ที่ไม่เหมาะสม ก็อาจนำไปสู่อาการปวดตา เวียนหัว หรือปัญหาในการปรับตัวได้ บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจหลักการทำงานของเลนส์ และแนะนำวิธีจับคู่เลนส์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ เพื่อให้การมองเห็นคมชัดและใส่สบายตาตลอดวัน
ทำความเข้าใจเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens)
เพื่อให้การเลือกเลนส์เป็นไปอย่างเหมาะสม สิ่งแรกที่ควรทราบคือหลักการทำงานของเลนส์โปรเกรสซีฟ
1.1 เลนส์โปรเกรสซีฟคืออะไร?
คือเลนส์ที่ช่วยให้มองเห็นชัดเจนในทุกระยะ ไกล กลาง และระยะใกล้ในแว่นตาเพียงอันเดียว โดยไม่มีรอยต่อหรือเส้นแบ่งบนเลนส์ ต่างจากเลนส์สองชั้น
โดยโซนการมองเห็น: แบ่งเป็น 3 โซนหลักที่เชื่อมต่อกันอย่างต่อเนื่อง
- ส่วนบน: สำหรับมองไกล เช่น ขับรถ ดูทีวี
- ส่วนกลาง: สำหรับมองระยะกลาง เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ คอนโซลรถ
- ส่วนล่าง: สำหรับมองใกล้ เช่น อ่านหนังสือ มือถือ
ข้อจำกัด: บริเวณด้านข้างของเลนส์จะมีภาพบิดเบือน (Distortion) ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโครงสร้างเลนส์ชนิดนี้ ยิ่งเลนส์คุณภาพสูงหรือออกแบบเฉพาะบุคคล ภาพบิดเบือนก็จะยิ่งน้อยลง ทำให้ปรับตัวง่ายขึ้น
1.2 ปัจจัยสำคัญในการเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟ
- ค่าสายตา: ต้องตรวจวัดอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญ (นักทัศนมาตร)
- โครงสร้าง/ดีไซน์เลนส์: เลือกโครงสร้างที่เหมาะสมกับกิจกรรมหลัก
- เทคโนโลยีการผลิต: เลนส์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีสูง (เช่น Free-Form) จะให้มุมมองกว้างกว่า ภาพบิดเบือนน้อยกว่า และใส่สบายตากว่า
- โค้ทเคลือบเลนส์: เช่น เคลือบตัดแสงสีฟ้า (Blue Light Filter) เคลือบป้องกันรอยขีดข่วน หรือเคลือบกัน UV

การจับคู่เลนส์ตามไลฟ์สไตล์
การเลือกโครงสร้างเลนส์ที่ถูกต้อง จะช่วยให้การปรับตัวง่ายขึ้นและตอบโจทย์การใช้งานสูงสุด
การเลือกเลนส์สำหรับ "สายออฟฟิศ" (เน้นใช้งานระยะกลางและใกล้)
สำหรับงานหน้าจอแบบจัดเต็ม
- ลักษณะการใช้งานหลัก: ทำงานหน้าจอคอมฯ นาน, ประชุม, อ่านเอกสาร
- เลนส์ที่แนะนำ (โครงสร้าง/ประเภท): เลนสที่มีโครงสร้างเน้นขยายพื้นที่มองเห็นใน ระยะกลางและใกล้ ให้กว้างเป็นพิเศษ ทำให้มองจอคอมพิวเตอร์ได้ชัดและเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องเงยหน้าหรือก้มคอมาก ลดอาการเมื่อยล้าที่คอและบ่าได้ดี
(ข้อควรจำ: เลนส์ประเภทนี้จะมีระยะมองไกลจำกัด มักไม่เหมาะกับการใส่ขับรถหรือมองไกลตลอดเวลา)
สำหรับงานออฟฟิศและมีการมองไกลบ้าง
- ลักษณะการใช้งานหลัก: ทำงานออฟฟิศและมีการมองไกลบ้าง
- เลนส์ที่แนะนำ (โครงสร้าง/ประเภท): เลนส์ที่ออกแบบให้พื้นที่มองกลางและใกล้ กว้างกว่าเลนส์มาตรฐาน แต่ยังคงความคมชัดในระยะไกล เพื่อให้ใช้ทำงานหน้าจอได้ดีขึ้น ขณะที่ยังใส่ขับรถหรือใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย
เทคนิคการใช้งานสำหรับสายออฟฟิศ
ควรจัดตำแหน่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ขอบบนของจออยู่ระดับเดียวกับสันจมูก เพื่อให้สายตามองผ่านส่วนกลางของเลนส์ได้พอดี
การเลือกเลนส์สำหรับ "สายเดินทาง" (เน้นใช้งานระยะไกลและเคลื่อนไหว)
สำหรับผู้ที่เน้นขับขี่และเดินทางบ่อย
- ลักษณะการใช้งานหลัก: ขับรถบ่อย, เดินทาง, ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- เลนส์ที่แนะนำ (โครงสร้าง/ประเภท): เน้นการลดภาพบิดเบือนด้านข้าง (Soft Design/เทคโนโลยีเฉพาะบุคคล) เพื่อให้มองไกลและกวาดสายตาได้อย่างเป็นธรรมชาติ มุมมองระยะไกลกว้าง ช่วยในการขับขี่และการตัดสินใจระยะทางแม่นยำขึ้น
สำหรับการมองในสถานการณ์ต่าง ๆ และเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน
- ลักษณะการใช้งานหลัก: การมองในสถานการณ์ต่าง ๆ เคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน
- เลนส์ที่แนะนำ (โครงสร้าง/ประเภท): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเคลื่อนไหวศีรษะและดวงตาบ่อย ๆ ขณะเดินขึ้นลงบันได หรือขณะมองกระจกข้างรถ โดยช่วยลดความรู้สึกวูบวาบหรือภาพโค้งด้านข้างได้ดี
เทคนิคการใช้งานสำหรับสายเดินทาง
เมื่อขับรถหรือเดิน ควรฝึกมองผ่านส่วนบนของเลนส์ (มองไกล) และเมื่อมองคอนโซลรถหรือ GPS ให้เหลือบสายตาลงเล็กน้อยเพื่อมองผ่านส่วนกลางของเลนส์
โค้ทเคลือบเลนส์ที่แนะนำ
สายออฟฟิศ
เพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตาและป้องกันผลกระทบจากแสงสีฟ้าของอุปกรณ์ดิจิทัล การใช้โค้ทเคลือบป้องกันแสงสีฟ้า (Blue Light Filter) จะช่วยให้สบายตาขณะทำงานเพิ่มขึ้น แต่ก็จะมีข้อจำกัดในการใช้ อาจไม่เหมาะในกลุ่มคนที่ทำงานเกี่ยวกับสี เนื่องจากโค้ทป้องกันแสงสีฟ้าอาจทำให้สีที่เห็นมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
สายเดินทาง
การใช้โค้ทเคลือบป้องกันแสงสะท้อนและ UV สูงสุด (พร้อมเทคโนโลยีลดแสงจ้าขณะขับรถกลางคืน) ช่วยให้การมองเห็นคมชัดแม้อยู่ในสภาพแสงที่หลากหลาย และปกป้องดวงตาจากรังสี UV ที่พบระหว่างการเดินทาง
3.1 ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ
- งบประมาณ: เลนส์แบบพรีเมียม/เฉพาะบุคคล มักมีราคาสูงกว่า แต่ให้การปรับตัวที่ง่ายกว่าและคุณภาพการมองเห็นดีกว่ามาก
- การทดลองใช้: หากเป็นไปได้ ควรเลือกร้านที่มีเครื่องมือให้ ทดลองสวมใส่ ชุดเลนส์โปรเกรสซีฟ หรือมีการจำลองการใช้งานก่อนตัดสินใจตัด
- ผู้เชี่ยวชาญ: การเลือกเลนส์ที่เหมาะสมที่สุดต้องอาศัยการตรวจวัดสายตาและวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างละเอียดโดย นักทัศนมาตรหรือผู้เชี่ยวชาญ
- การรับประกัน: ควรสอบถามเรื่องการรับประกันการปรับตัว (Guarantee Period) เพื่อให้มั่นใจหากมีปัญหาในการใช้งานในช่วงแรก
คำแนะนำ: เลนส์โปรเกรสซีฟไม่ใช่ "เลนส์เดียวที่เหมาะกับทุกคน" แต่คือ "เลนส์ที่ต้องออกแบบให้เหมาะกับคุณโดยเฉพาะ" การสื่อสารพฤติกรรมการใช้สายตาประจำวันกับผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการเลือกเลนส์ที่ "ใช่" กับชีวิตคุณ
บทความโดย
นางสาวฟ้าใส เจริญธนันพัชร์
นักทัศนมาตร












