วัสดุกรอบแว่นยอดนิยม เลือกแบบไหนดี? โลหะ vs พลาสติก
รู้หรือไม่? เวลาเลือกแว่นตา นอกจากคุณภาพของเลนส์ที่สำคัญมากแล้ว “วัสดุของกรอบแว่น” ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้งานไม่แพ้กัน เพราะกรอบแว่นไม่ใช่แค่ช่วยให้มองเห็นชัดขึ้น แต่ยังเป็นไอเท็มที่บอกตัวตน สไตล์ และบุคลิกของผู้สวมใส่ได้อย่างชัดเจน
วัสดุที่ต่างกันก็ให้ประสบการณ์การใส่ที่ไม่เหมือนกัน ทั้งเรื่อง ความทนทาน ความเบา การสวมใส่สบาย ความปลอดภัยต่อผิว ไปจนถึง “อารมณ์” ที่ส่งต่อให้ลุคของคุณดูจริงจัง มินิมอล หรือแฟชั่นมากขึ้น
ในบทความนี้ ร้านแว่นตา Opticland จะพาคุณไปรู้จักวัสดุกรอบแว่นยอดนิยมทั้ง โลหะ (Metal), ไทเทเนียม (Titanium) และ พลาสติก (Plastic) พร้อมไกด์ให้ว่าแบบไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุด มาดูไปพร้อมกันว่ากรอบแต่ละแบบมีจุดเด่นและข้อควรระวังอะไรบ้าง เพื่อให้คุณเลือกแว่นคู่ใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น!
วัสดุกรอบแว่นโลหะ (Metal Frame)
1.อัลลอย (Nickel Silver - Monel)
กรอบโละหะเป็นวัสดุยอดนิยม วัสดุโลหะมีความโดดเด่นด้วยความ บาง เรียบหรู ทางการ มักใช้ในแว่นสายตาที่มีความเรียบง่ายหรือแว่นสำหรับใส่ทำงาน ซึ่งวัสดุที่นำมาใช้จะแบ่งออกเป็น
คุณสมบัติของอัลลอย
อัลลอยเป็น โลหะผสมคือการที่ผสมโลหะทั้งสองชนิดขึ้นไป วัสดุอัลลอยที่นิยมใช้มากที่สุดคือ โมเนล (Monel) คือโลหะผสมระหว่างทองแดง (Copper) + นิกเกิล (Nickle)
- ข้อดี
- แข็งแรงทนทานต่อแรงบิด ไม่เสียรูปง่าย น้ำหนักเบากว่าโลหะ (Metal) ทนต่อการกัดกร่อยพอสมควร
- ราคาจะถูกกว่าไทเทเนียม (titanium) และ สแตนเลส สตีล (stainless steel)
- ข้อควรระวัง
- อาจก่อเกิดการแพ้ของผิวหนัง เนื่องจากมี นิกเกิล ผสมอยู่ด้วย
- หากโดนน้ำหรือเหงื่อบ่อย ๆ อาจเกิดสนิม เมื่อชั้นผิวเคลือบหลุดออก
- น้ำหนักจะมากกว่าไทเทเนียมเล็กน้อย แต่น้ำหนักจะใกล้เคียงหรือเบากว่าสแตนเลส สตีล
2.สแตนเลส สตีล (Stainless Steel)
คุณสมบัติของสแตนเลส สตีล
เป็นเนื้อโลหะที่มีเหล็ก (Iron) เป็นหลักและมีโครเมียมผสมอยู่ด้วย วัสดุโครเมียมจะทำให้เกิด “ชั้นฟิล์ม” เพื่อป้องกันสนิมบนพื้นผิวของโลหะ ทำให้เนื้อวัสดุนี้ไม่ขึ้นสนิมง่ายเหมือนโลหะทั่วไป
- ข้อดี
- ทนทาน ทนแรงบิดงอ ทนต่อความร้อนและสารเคมี ไม่เป็นสนิม
- เหมาะกับคนที่เหงื่อออกง่ายหรืออยู่ในที่สภาพอากาศร้อนชื้น
- น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับคนที่ใส่แว่นเป็นทั้งวัน ลักษณะแว่นเป็นแนวเรียบหรู
- ข้อควรระวัง
- วัสดุสแตนเลส สตีล (stainless steel) น้ำหนักจะมากกว่าเนื้อวัสดุเป็นไทเทเนียมเล็กน้อย
- บางรุ่นมีส่วนผสมของนิกเกิล ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ในบางคน

3.ไทเทเนียม (Titanium)
คุณสมบัติของไทเทเนียม
เป็นวัสดุที่เราได้ยินกันบ่อยเพราะเป็นโลหะชนิดนึงที่ เบา ทน ไม้แพ้ ไม่เป็นสนิม มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงมาก จึงมักนำมาใช้ในงานที่ต้องการความทนทานสูง อย่างเช่น การแพทย์ อวกาศ เป็นต้น
ชนิดของวัสดุไทเทเนียม
ไทเทเนียมแบ่งออกได้อีก 3 ประเภทด้วยกันดังนี้
- ไทเทเนียมบริสุทธิ์ (Pure Titanium) เป็นไทเทเนียมแท้กว่า 99%
- เบต้าไทเทเนียม (Beta-Titanium) มีส่วนผสมของโลหะอื่น เช่นวานาเดียมหรืออะลูมิเนียม
- ไทเทเนียม อัลลอย (Titanium Alloy) มีส่วนผสมของอัลลอยเล็กน้อยเพื่อความแข็งแรง
โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้ Pure Titanium หรือ Beta-Titanium เพราะมีน้ำหนักเบาและไม่ก่อให้เกิดการแพ้
- ข้อดี
- วัสดุไทเทเนียมมีน้ำหนักเบสมากที่สุดในกลุ่มโลหะ เหมาะกับคนที่ใส่แว่นทั้งวัน
- แข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี
- ไม่เป็นสนิม ทนต่อเหงื่อ ความชื้นและอากาศร้อน ผิวโลหะเสื่อมสภาพได้ช้า
- ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ (Hypoallergenic) ปลอดภัยต่อผิว เหมาะกับผู้ที่แพ้โลหะ เช่น นิกเกิลหรือทองแดง
- ข้อควรระวัง ราคาสูงกว่าวัสดุทั่วไป ต้องใช้เทคโนโลยีสูง เช่น Laser Welding

ตารางเปรียบเทียบความต่างของวัสดุอัลลอย vs สแตนเลส สตีล vs ไทเทเนียม

วิธีการดูแลรักษากรอบแว่นตาประเภทโลหะ
- 1.ล้างกรอบด้วยน้ำยาล้างจานผสมกับน้ำ ใช้นิ้วถูที่ผิวเลนส์และกรอบไปในทิศทางเดียวกัน แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ไม่แนะนำให้ล้างด้วยน้ำร้อนเพราะสามารถทำให้ชั้นเคลือบผิวและยางเสื่อมสภาพได้ รวมถึงไม่แนะนำให้แช่แว่นในน้ำหรือสบู่เป็นเวลานานหรือการใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ทิ้งไว้บนกรอบเพราะทำให้เกิดสนิมในบางเนื้อวัสดุได้
- 2.เช็ดให้แห้งทันทีด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าเช็ดแว่นตามกรอบรวมถึงบริเวณข้อต่อของแว่นด้วย ไม่ใช้ทิชชู่หรือผ้าหยาบเพราะอาจทำให้แว่นเป็นรอยได้ ห้ามใช้แอลกอฮอล์ นำยาล้างเล็บ หรือน้ำหอมเช็ดกรอบ
หากผู้สวมใส่รู้สึกว่าใช้แว่นไปแล้วมีอาการแว่นไม่กำชับกับใบหน้าเหมือนเดิม หรือใส่แล้วรู้สึกไม่พอดี คับไป หลวมไปแนะนำให้เข้าไปปรับดัดแว่นหรือให้ทางร้านแว่นตาช่วยดูบริเวณบานพับของขาแว่นเพื่อการยืดระยะเวลาการใช้งานของตัวกรอบได้มากขึ้น

2.กรอบแว่นพลาสติก (Plastic)
กรอบแว่นพลาสติกเป็นอีกเนื้อวัสดุที่ได้รับความนิยมพอ ๆ กับโลหะ จะมีความแฟชั่นมากขึ้นมีสีที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งเนื้อวัสดุที่ทำมาจากพลาสติกแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกันเรื่องน้ำหนัก ความยืดหยุ่น ความทนทาน ราคา และการใช้งานที่เหมาะสม สามารถแบ่งได้อีกหลายประเภท ดังนี้
1.อะซิเตต (Cellulose Acetate หรือ Acetate)
คุณสมบัติของอะซิเตต
วัสดุที่สกัดจากเยื่อฝ้ายผสมกับสารเคมีเพื่อให้ได้เป็นอะซิเตต เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในการผลิตกรอบแว่น สามารถย้อมสีได้หลายสีและมีความเงาเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับตัวแว่น
- ข้อดี น้ำหนักเบากลาง ๆ มีความยืดหยุ่นในระดับนึง สีสันสวยงาม มีลวดลายที่หลากหลายลักษระจะมันวาว เช่น สีลายกระ สามารถปรับดัดทรงแว่นด้วยความร้อนได้เพื่อให้เข้ากับรูปหน้าของผู้สวมใส่มากขึ้น
- ข้อควรระวัง
- หากกรอบแว่นโดนความร้อนนาน ๆ เช่นหากผู้สวมใส่วางแว่นทิ้งไว้ในรถในที่ที่โดนความร้อนแว่นสามารถเสื่อมสภาพหรืออาจจะมีรูปทรงที่ผิดไป
- ตัวกรอบสามารถเปราะหรือแตกได้เมื่อใช้เป็นเวลานาน


2.โพรพิโอเนต (Propionate)
คุณสมบัติของโพรพิโอเนต
เบากว่าอะซิเตต (Acetate) เป็นพลาสติกกึ่งชีวภาพ (semi-bio-based plastic) ผลิตจากเซลลูโลส
- ข้อดี น้ำหนักจะเบากว่า อะซิเตต (acetate) มีความยืดหยุ่นมากกว่า
- ข้อควรระวัง หากโดนความร้อนสูงมาก ๆ อาจะเสียรูปได้ สีหรือลวดลายไม่หลากหลายเท่าอะซิเตต (acetate)
3.ออปไทล์ (Optyle)
คุณสมบัติของออปไทล์
จัดอยู่ในกลุ่ม Thermoplastic Polyester Resin เป็นเนื้อวัสดุพลาสติกน้ำหนักเบาและมีความโปร่งใสสูง
- ข้อดี น้ำหนักจะเบากว่า cellulose acetate สีจะเงาคล้าย ๆ cellulose acetate แต่จะไม่ด้านเหมือนเนื้อวัสดุ TR-90 หรือ Ultem อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดการแพ้ (hypoallergenic)
- ข้อควรระวัง หากกรอบเป็นรอยจะไม่สามารถขัดผิวใหม่ได้เหมือน cellulose acetate

4.ไนลอนชนิดวิศวกรรม (Grilamid TR-90 /Nylon/ Polyamide)
คุณสมบัติของไนลอนชนิดวิศวกรรม
ไนลอนชนิดวิศวกรรมหรือที่รู้จักกันในชื่อ TR-90 เป็นวัสดุพลาสติกสังเคราะห์ในตระกูล โพลีเอไมด์ (Polyamide) ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มีคุณสมบัติเฉพาะในด้านความยืดหยุ่น ความทนทาน และน้ำหนักเบา มักจะนำมาใช้ในกลุ่มสปอร์ต (Sport Frame) หรือกรอบเด็ก (Kids Frame)
- ข้อดี เบาและมีความยืดหยุ่นสูง ดัดไม่หักง่าย ทนต่อแรงกระแทกและรังสีUV ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
- ข้อควรระวัง ลวดลายหรือสีอาจไม่หลากหลายเท่าเนื้อวัสดุอะซิเตต (acetate) หากแว่นโดนสารเคมีแรง ๆ เช่น อะซิโตน อาจทำให้ผิวกรอบหรือขุ่นได้
5.Polycarbonate (PC)
คุณสมบัติของ Polycarbonate (PC)
เป็นพลาสติกในกลุ่มของ Thermoplastic Polymer วัสดุที่เน้นความแข็งแรงทนแรงกระแทกได้วัสดุเหล่านี้มักจะใช้ทำพพวกกระจกกันกระสุน หน้ากากนิรภัย รวมถึงกรอบแว่นตา และเลนส์แว่นตาอีกด้วย ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นแว่นนิรภัย
- ข้อดี ทนแรงกระแทกได้สูงมากแข็งแรงมาก น้ำหนักเบา ทนต่อรังสี UV
- ข้อควรระวัง เนื่องจากผิวของ Polycarbonate ค่อนข้างนุ่ม จึงมักเคลือบ coat เพื่อเพิ่มรอยขีดข่วน ไวต่อแอลอฮอลล์แรง ๆ หรืออะซิโตนอาจทำให้พื้นผิวกรอบขุ่นหรือแตกร้าวได้


5.อูเทมหรืออัลเทม (Ultem)
คุณสมบัติของ อูเทมหรืออัลเทม (Ultem)
เป็น Thermoplastic polyetherimide (PEI) มีคุณสมบัติคล้าย TR-90 แต่จะมีการทนความร้อนได้ถึง 150 องศาโดยไม่เสียรูป) และมีความยืดหยุ่นสูง มักจะถูกใช้เป็นเครื่องมือแพทย์และเครื่องบิน
- ข้อดี น้ำหนักเบาใส่สบาย ยืดหยุ่นและคงรูปได้ดี ทนต่อสภาพอากาศร้อน
- ข้อควรระวัง สีหรือลวดลายอาจไม่หลากหลายเท่า cellulose acetate ส่วนใหญ่มักจะเป็นสีพื้นหรือสีใส หากมีรอบขีดข่วน ผิวอาจะด้านลงเพราะเนื้อวัสดุไม่สามารถขัดได้เงาเท่า acetate

5.Polyamide
คุณสมบัติของ Polyamide
เป็นวัสดุในตระกูล Polymide (Nylon) ที่มีคุณสมบัติพิเศษทำให้เหมาะกับการพิมพ์แบบ 3D print แบบ Selective Laser Sintering หรือ Multi Jet Fusion ในเรื่องของน้ำหนักจะเบากว่า acetate และโลหะ
- ข้อดี น้ำหนักเบา คืนรูปได้ดีไม่แตกหักง่าย เนื้อวัสดุเป็นผงทำให้ขึ้นรูปอย่างละเอียด มีความแม่นยำสูง สีและผิวสัมผัสเป็นผิวด้าน
- ข้อควรระวัง ผิวสัมผัสจะไม่เรียบเงาเหมือน acetate มักเป็นผิวด้านและผิวแมท ราคาจะสูงกว่า เมื่อใช้แว่นเป็นระยะเวลานานสีวัสดุสามารถเฟดลงได้


ตารางเปรียบเทียบความต่างของวัสดุพลาสติก

วิธีการดูแลรักษากรอบแว่นตาประเภทพลาสติก
ล้างแว่นด้วยน้ำยาล้างจานผสมกับน้ำ เพื่อลดคราบมัน หรือเหงื่อ และสิ่งสกปรกที่ทำให้สีซีดเร็ว โดยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดหลังใช้งานทุกครั้ง หากไม่ใช้แว่นแนะนำให้ผู้สวมใส่เก็บแว่นไว้ในกล่องเสมอเพื่อป้อนกันไม่ให้แว่นเบี้ยวและยังสามารถลดรอยขีดข่วนได้อีกด้วย
ข้อควรระวังสำหรับการทำความสะอาดกรอบแว่นพลาสติกให้หลีกเลี้ยงการโดนความร้อน หรือสารเคมีแรง ๆ เช่น แอลกอฮอล์, น้ำยาล้างเล็บ, ทินเนอร์ หากรู้สึกว่าแว่นเบี้ยวหรือหลวมไปแนะนำให้เข้าไปให้ทางร้านแว่นตาให้ช่วยปรับดัด

สรุป
สรุปแล้ว วัสดุที่ใช้ผลิตกรอบแว่น (Glasses) มีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งโลหะ พลาสติก หรือวัสดุพรีเมียมอย่างไทเทเนียม ซึ่งแต่ละแบบก็มีบุคลิก จุดเด่น และข้อควรพิจารณาที่ต่างกันออกไป การเลือกกรอบที่ “ใช่” จึงไม่ใช่แค่เลือกจากดีไซน์สวย ๆ แต่ควรคำนึงถึง ไลฟ์สไตล์ รูปหน้า น้ำหนักที่ต้องการ ความทนทาน รวมถึงสไตล์การแต่งตัวของผู้สวมใส่ ด้วย
ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องใส่แว่นทำงานทั้งวัน คนที่เล่นกีฬาเป็นประจำ หรือคนที่อยากได้กรอบแว่นที่ช่วยเสริมลุคแบบมีสีสัน การรู้จักวัสดุให้ดี จะช่วยให้คุณเลือกแว่นได้ถูกต้อง คุ้มค่า และใส่ได้อย่างสบายตลอดวัน เลือกวัสดุที่เหมาะสมตั้งแต่ต้น ก็เหมือนได้ ‘แว่นคู่ใจ’ ที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและสไตล์ไปพร้อมกัน!
สรัลนุช จุลเสวก
นักทัศนมาตร












